อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และไฟฟ้าหลายอย่างเวลาทำงานจะเกิดความร้อน ถ้าความร้อนสูงเกินอุปกรณ์อาจ Fail ไม่ทำงานหรือทำงานแต่ประสิทธิภาพลดลง การมีความร้อนสูงเกินเป็นสาเหตุหนี่งที่ทำให้อายุการใช้งานของอุปกรณ์สั้นลง พัดลมระบายความร้อนเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดอุณหภูมิให้อุปกรณ์และลดความร้อนให้ระบบ ช่างที่ทำงานเกียวกับคอมพิวเตอร์ก็จะเจอพัดลมแบบที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ ส่วนคนที่ทำงานเกี่ยวกับการซ่อมเครื่องจักรก็จะเจอพัดลมอีกแบบที่แตกต่างกัน เครื่องจักรและระบบอัตโนมัติต่างๆในโรงงานจะใช้พัดลมหลากหลายรูปแบบ สเปคพื้นฐานของพัดลมระบายความร้อนได้แก่ความเร็วรอบในการหมุนซึ่งบอกเป็นหน่วย RPM แบ่งระดับความเร็วรอบได้หลายระดับ เช่น ประมาณ 1800RMP หรือต่ำกว่าเรียก Low speed ประมาณ 2300RPM เรียก Medium Speed ประมาณ 2800 RPM เรียก High speed ถ้ารอบสูงกว่านี้ก็มีชื่อเรียกเป็น Very High speed , Very Very High speed , Super High Speed , Extremely High Speed
สำหรับเทคโนโลยีที่ช่วยลดแรงเสียดทานของแกนพัดลมขณะหมุนมีหลายแบบดังนี้ 1) Sleeve Bearing หรือ แบบธรรมดา ปกติพัดลมแบบนี้ราคาจะถูก เมื่อใช้ไปนานๆจะมีเสียงดังและมีอายุการใช้งานยาวนานระดับปานกลาง
2) Ball Bearing หรือแบบลูกปืน แบบนี้อายุการใช้งานจะนานกว่าแบบแรก ความดังขณะหมุนเงียบกว่า และราคาจะแพงกว่าแบบแรก ถ้าสเปคอื่นๆเหมือนกันเมื่อเปรียบเทียบเฉพาะความเร็วรอบ แบบลูกปืนจะทำรอบหมุนได้มากกว่าแบบ Sleeve Bearing
3) แบบเทคโนโลยี Advance ที่พัฒนาสเปคให้ดีกว่าแบบลูกปืน คือ ความดังขณะหมุนเงียบกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า 2 แบบแรกที่กล่าวมาแล้ว
ไฟของพัดลมที่นิยมใช้ มี 5VDC 12VDC 24VDC 48VDC 100VAC 110VAC 200VAC
220VAC 230VAC 380VAC ระบบคอมพิวเตอร์ใช้พัดลม 12VDC ส่วนเครื่องจักรในโรงงานและระบบควบคุมใช้ไฟ 24VDC และบางเครื่องจักรมีจุดที่ใช้ไฟ 100VAC 110VAC 200VAC ด้วย ซึ่งเป็นเครื่องจักรจากญึ่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ เวลาซ่อมเครื่องต้องใช้พัดลมสเปคตามแบบเดิมของเครื่อง การระบายความร้อนของระบบที่ออกแบบใหม่ๆจะใช้พัดลมไฟ 220VAC 230VAC
รายละเอียดเกี่ยวกับพัดลมระบายความร้อนมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจเพิ่มดังนี้
1) เรื่องขนาด และ รูปทรงของพัดลม มีแบบสี่เหลี่ยม แบบกลม และ แบบทรงตัด การระบุขนาดใน Datasheet ผู้ผลิตส่วนใหญ่ใช้หน่วยเป็น mm ส่วนช่างบ้านเราบางคนยังระบุขนาดพัดลมใช้หน่วยเป็น นิ้ว ขนาดพัดลมที่ใช้หน่วย mm เช่น 120x120x38mm , 172x150x38mm เป็นต้น ลองดูรูปด้านล่าง
วัดความกว้าง และความยาวได้ 120mm |
พัดลมสี่เหลี่ยม ขนาด 120x120x38mm คือกว้าง 120mm ยาว 120mm หนา 38mm |
พัดลมสี่เหลี่ยม ขนาด 60x60x25mm |
วัดได้ประมาณ 171mm + - |
วัดได้ประมาณ 150mm + - |
พัดลมทรงตัด ขนาด 172x150x38mm อาจวัดได้มากกว่าหรือน้อยกว่าเล็กน้อยได้ |
พัดลม Size กลม ขนาด 8 นิ้ว
และโครงโลหะใบพัดโลหะ พัดลมใบพัดโลหะใช้งานในจุดที่ความร้อนสูงซึ่งพัดลมใบพัดพลาสติกทนไม่ได้
พัดลมโครงพลาสติกใบพัดพลาสติก
พัดลมใบพัดเหล็ก โครงเหล็ก
แบบขั้วเสียบต้องใช้สายของพัดลมต่อไฟเข้า ดูรูปพัดลมที่มีขั้วเสียบด้านล่าง
พัดลม มี 2 สาย
พัดลมแบบขั้วเสียบ (Terminal )
สายต่อไฟของพัดลม ใช้กับพัดลมแบบขั้วเสียบดัานบน
4. พัดลมมี Connector กับ ไม่มี Connector
Connector ของพัดลมมีหลายแบบ เครื่องต่างยีห้ออาจใชั Connector คนละแบบ หรือเหมือนกันแล้วแต่กรณี ปกติแล้วพัดลมจากโรงงานผลิตพัดลมจะไม่มี Connector ต่อกับพัดลมมาให้เลยคือ เป็นพัดลมมีสายเปลื่อยไว้เพื่อให้คนใช้งานเลือกต่อและย้ำสายกับ Connector แบบต่างๆได้ ตามแต่จะออกแบบประยุกต์ใช้งาน เราอาจสั่งให้โรงงานต่อ Connector ตามแบบที่ต้องการก็ได้เช่นกันแต่ต้องสั่งซื้อจำนวนขั้นต่ำตามที่โรงงานกำหนด เช่น 200 ตัว 500 ตัว เป็นต้น
5) จำนวน สายของพัดลม มี 2 สาย 3 สาย 4 สาย 3 แบบนี้พบบ่อยที่สุด
พัดลม 5 สายก็มี 6 สายก็มี โรงงานผลิตพัดลมจะออกแบบพัดลมตามความต้องการของคนใช้งานได้แต่ต้องสั่งจำนวนเยอะมากเป็นโครงการใหญ่ๆจึงจะสั่งออกแบบสั่งผลิตตามแบบได้ พัดลม 2 สายแรกเป็นสายไฟเลี้ยง สายที่ 3 เป็นสายสัญญานเซนเซอร์ และ สายที่ 4 เป็นสายสัญญาณควบคุม PWM
ถ้าเป็นพัดลมมี 4 สายเป็นพัดลมที่สามารถควบคุมความเร็วรอบในการหมุนได้
พัดลมมี 2 สาย สำหรับต่อไฟ
รูปคลื่นสัญญาณ Alarm / Rotor Detection Signal ของพัดลม 3 สาย
พัดลมมี 4 สาย สายที่ 4 เป็นสัญญาณ PWM ใช้ควบคุมความเร็วรอบของพัดลม
Connector ของพัดลมมีหลายแบบ เครื่องต่างยีห้ออาจใชั Connector คนละแบบ หรือเหมือนกันแล้วแต่กรณี ปกติแล้วพัดลมจากโรงงานผลิตพัดลมจะไม่มี Connector ต่อกับพัดลมมาให้เลยคือ เป็นพัดลมมีสายเปลื่อยไว้เพื่อให้คนใช้งานเลือกต่อและย้ำสายกับ Connector แบบต่างๆได้ ตามแต่จะออกแบบประยุกต์ใช้งาน เราอาจสั่งให้โรงงานต่อ Connector ตามแบบที่ต้องการก็ได้เช่นกันแต่ต้องสั่งซื้อจำนวนขั้นต่ำตามที่โรงงานกำหนด เช่น 200 ตัว 500 ตัว เป็นต้น
พัดลม 2 สาย ไม่มี connector หรือ สายเปลือย
พัดลม 2 สายมี Connector
พัดลม 5 สายก็มี 6 สายก็มี โรงงานผลิตพัดลมจะออกแบบพัดลมตามความต้องการของคนใช้งานได้แต่ต้องสั่งจำนวนเยอะมากเป็นโครงการใหญ่ๆจึงจะสั่งออกแบบสั่งผลิตตามแบบได้ พัดลม 2 สายแรกเป็นสายไฟเลี้ยง สายที่ 3 เป็นสายสัญญานเซนเซอร์ และ สายที่ 4 เป็นสายสัญญาณควบคุม PWM
ถ้าเป็นพัดลมมี 4 สายเป็นพัดลมที่สามารถควบคุมความเร็วรอบในการหมุนได้
พัดลมมี 2 สาย สำหรับต่อไฟ
พัดลมมี 3 สาย มีสายเซนเซอร์ชนิดวัดความเร็วรอบ หรือ Speed Signal
ใช้กับพัดลม CPU คอมและเครื่องที่ต้องการเช็ครอบหมุนของพัดลมว่าหมุนกี่รอบ รวมทั้งเช็คได้ว่าพัดลมหมุนหมือไม่หมุนได้ด้วย
ใช้กับพัดลม CPU คอมและเครื่องที่ต้องการเช็ครอบหมุนของพัดลมว่าหมุนกี่รอบ รวมทั้งเช็คได้ว่าพัดลมหมุนหมือไม่หมุนได้ด้วย
รูปคลื่นสัญญาณ Speed Signal ของพัดลม 3 สาย
พัดลมมี 3 สาย มีสายเซนเซอร์ชนิด Alarm หรือ Rotor Detection Signal
ใช้กับเครื่องจักรที่ต้องการเช็คสถานะพัดลมว่าหมุนหรือไม่หมุน ถ้าไม่หมุนจะมีสัญญาณ Alarm ออกจากพัดลมแจ้งไปยังบอร์ดควบคุม
ใช้กับเครื่องจักรที่ต้องการเช็คสถานะพัดลมว่าหมุนหรือไม่หมุน ถ้าไม่หมุนจะมีสัญญาณ Alarm ออกจากพัดลมแจ้งไปยังบอร์ดควบคุม
พัดลมมี 4 สาย สายที่ 4 เป็นสัญญาณ PWM ใช้ควบคุมความเร็วรอบของพัดลม